กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวาและโอกาสมากมาย แต่ปัญหาที่หลายคนคุ้นเคยเป็นอย่างดีคือ มลพิษทางอากาศ โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวที่คุณภาพอากาศมักลดลงอย่างมาก การมีต้นไม้ฟอกอากาศในบ้านสามารถช่วยเพิ่มคุณภาพอากาศในบ้านของคุณได้อย่างมาก อีกทั้งยังเพิ่มความสวยงามให้กับบ้านอีกด้วย
รู้หรือไม่?
การวิจัยพบว่าต้นไม้ฟอกอากาศสามารถลดสารพิษในอากาศได้ถึง 87% ภายในเวลา 24 ชั่วโมง จากการศึกษา Clean Air Study ของ NASA ต้นไม้ฟอกอากาศช่วยดูดซับสารพิษต่างๆ เช่น เบนซีน ฟอร์มัลดีไฮด์ และคาร์บอนมอนอกไซด์ บ้านที่มีต้นไม้ฟอกอากาศจะมีคุณภาพอากาศที่ดีกว่าบ้านที่ไม่มีต้นไม้เหล่านี้อย่างมาก ทำให้ที่อยู่อาศัยสะดวกสบายและดีต่อสุขภาพมากขึ้น


ต้นหอกพระอินทร์ (African Spear Plant)
ต้นหอกพระอินทร์ (African Spear Plant หรือ Sansevieria cylindrica) มีใบทรงกระบอกที่ดูโดดเด่นและสามารถฟอกอากาศได้ดีมาก เช่น การกรองสารฟอร์มัลดีไฮด์และเบนซีน อีกทั้งยังเป็นต้นไม้ที่ทนทานและดูแลง่าย เหมาะสำหรับผู้ที่มีไลฟ์สไตล์ยุ่งในกรุงเทพฯ
วิธีดูแล:
- แสง: แสงสว่างแบบทางอ้อมหรือตำแหน่งร่มรำไร
- น้ำ: รดน้ำเมื่อดินแห้งสนิท
- จุดเด่น: ดูแลง่ายและเหมาะกับพื้นที่ขนาดเล็ก

เฟิร์นรังนก (Bird’s Nest Fern)
เฟิร์นรังนกเป็นต้นไม้ที่เพิ่มความเขียวชอุ่มให้กับบ้านด้วยใบสีเขียวสดและรูปทรงที่สวยงาม สามารถช่วยดูดซับสารพิษในอากาศได้ดี เหมาะสำหรับบ้านในเขตเมืองกรุงเทพฯ
วิธีดูแล:
- แสง: แสงทางอ้อมในระดับปานกลางถึงต่ำ
- น้ำ: รักษาความชื้นในดิน แต่หลีกเลี่ยงการให้น้ำมากเกินไป
- จุดเด่น: เพิ่มบรรยากาศแบบทรอปิคอลให้บ้าน

ต้นยางอินเดีย (Rubber Plant)
ต้นยางอินเดีย (Ficus elastica) มีใบสีเขียวเข้มที่เงางามและมีคุณสมบัติเด่นในการฟอกอากาศ โดยเฉพาะการกำจัดสารพิษและเพิ่มออกซิเจนให้กับบ้าน
วิธีดูแล:
- แสง: แสงสว่างทางอ้อม
- น้ำ: รดน้ำเมื่อดินแห้งประมาณ 1 นิ้ว
- จุดเด่น: สวยงามและช่วยฟอกอากาศได้อย่างดี

ต้นลิ้นมังกร (Snake Plant)
ต้นลิ้นมังกร (Sansevieria trifasciata) เป็นหนึ่งในต้นไม้ฟอกอากาศที่ดีที่สุดในโลก สามารถกำจัดสารพิษ เช่น ฟอร์มัลดีไฮด์ เบนซีน และไซลีน อีกทั้งยังเป็นต้นไม้ที่เหมาะสำหรับปลูกในประเทศไทย
วิธีดูแล:
- แสง: ทนต่อแสงน้อยถึงแสงสว่างทางอ้อม
- น้ำ: รดน้ำเมื่อดินแห้งสนิท
- จุดเด่น: ปล่อยออกซิเจนตอนกลางคืน เหมาะสำหรับห้องนอน

ปาล์มหมาก (Areca Palm)
ปาล์มหมาก (Dypsis lutescens) เป็นต้นไม้ที่ช่วยเพิ่มความชื้นในอากาศและฟอกอากาศได้ดี สามารถกำจัดสารพิษ เช่น คาร์บอนมอนอกไซด์และฟอร์มัลดีไฮด์
วิธีดูแล:
- แสง: แสงสว่างทางอ้อม
- น้ำ: รดน้ำให้ดินชุ่มแต่ไม่แฉะ
- จุดเด่น: เพิ่มความสดชื่นให้กับพื้นที่ขนาดใหญ่

เดหลี (Peace Lily)
เดหลี (Spathiphyllum) เป็นต้นไม้ที่มีดอกสีขาวสวยงามและมีคุณสมบัติในการฟอกอากาศได้อย่างยอดเยี่ยม สามารถกำจัดสารพิษ เช่น เบนซีนและฟอร์มัลดีไฮด์
วิธีดูแล:
- แสง: แสงทางอ้อมในระดับต่ำถึงปานกลาง
- น้ำ: รดน้ำเมื่อดินเริ่มแห้ง
- จุดเด่น: สวยงามและช่วยฟอกอากาศได้ดี

ปาล์มไผ่ (Bamboo Palm)
ปาล์มไผ่ (Chamaedorea seifrizii) ได้รับการยอมรับว่าเป็นต้นไม้ฟอกอากาศอันดับต้นๆ ตามการศึกษา Clean Air Study ของ NASA เหมาะสำหรับพื้นที่ขนาดใหญ่
วิธีดูแล:
- แสง: แสงสว่างทางอ้อม
- น้ำ: รดน้ำให้ดินชุ่ม
- จุดเด่น: เหมาะสำหรับพื้นที่ห้องนั่งเล่นหรือสำนักงาน

พลูด่าง (Golden Pothos)
พลูด่าง (Epipremnum aureum) เป็นต้นไม้เลื้อยที่โตเร็วและดูแลง่าย มีคุณสมบัติในการกำจัดสารพิษ เช่น เบนซีนและฟอร์มัลดีไฮด์
วิธีดูแล:
- แสง: แสงน้อยถึงแสงสว่างทางอ้อม
- น้ำ: รดน้ำเมื่อดินเริ่มแห้ง
- จุดเด่น: เหมาะสำหรับแขวนหรือปลูกในกระถาง

เฟิร์นบอสตัน (Boston Fern)
เฟิร์นบอสตัน (Nephrolepis exaltata) เป็นอีกหนึ่งต้นไม้ที่ฟอกอากาศได้ดี โดยเฉพาะการเพิ่มความชื้นและการกำจัดฟอร์มัลดีไฮด์
วิธีดูแล:
- แสง: แสงทางอ้อมหรือตำแหน่งร่มรำไร
- น้ำ: รักษาความชื้นในดินและพ่นละอองน้ำเป็นประจำ
- จุดเด่น: เหมาะสำหรับห้องน้ำหรือพื้นที่ที่มีความชื้นสูง


ฟิโลเดนดรอน เบอร์กิน (Philodendron Birkin)
ฟิโลเดนดรอน เบอร์กิน มีใบลายครีมที่ดูหรูหราและช่วยกำจัดสารพิษในอากาศได้ดี เหมาะสำหรับตกแต่งบ้าน
วิธีดูแล:
- แสง: แสงสว่างทางอ้อม
- น้ำ: รดน้ำเมื่อดินเริ่มแห้ง
- จุดเด่น: หรูหราและดูแลง่าย
ความสำคัญของต้นไม้ฟอกอากาศในกรุงเทพฯ
มลพิษทางอากาศในกรุงเทพฯ โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาว อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้อย่างรุนแรง การมีต้นไม้ฟอกอากาศในบ้านช่วยปรับปรุงคุณภาพอากาศและสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลาย อีกทั้งยังช่วยลดความเครียดและเพิ่มความสดชื่นในบ้าน
เคล็ดลับสำหรับการดูแลต้นไม้ฟอกอากาศ
- เริ่มจากเล็ก ๆ: เริ่มปลูกต้นไม้ 1-2 ชนิดก่อน และเพิ่มจำนวนเมื่อคุณเห็นผลลัพธ์
- เลือกตำแหน่งที่เหมาะสม:
- ห้องนอน: วางต้นไม้ที่ปล่อยออกซิเจนตอนกลางคืน เช่น ต้นลิ้นมังกร ใกล้เตียง
- ห้องนั่งเล่น: ใช้ต้นไม้ขนาดใหญ่ เช่น ปาล์มหมาก หรือ ปาล์มไผ่ เพื่อเพิ่มความสดชื่น
- ห้องน้ำ: เลือกต้นไม้ที่ชอบความชื้น เช่น เฟิร์นบอสตัน
- โต๊ะทำงาน: เพิ่มต้นไม้ขนาดเล็ก เช่น พลูด่าง หรือ ฟิโลเดนดรอน เบอร์กิน
- ใกล้หน้าต่าง: วางต้นไม้ที่ชอบแสง เช่น เดหลี หรือต้นยางอินเดีย
- ดูแลอย่างเหมาะสม: รดน้ำและให้แสงตามคำแนะนำของแต่ละต้นไม้
สรุป
การมีต้นไม้ฟอกอากาศในบ้านไม่เพียงช่วยปรับปรุงคุณภาพอากาศ แต่ยังช่วยเพิ่มความสวยงามและสร้างบรรยากาศที่ดีต่อสุขภาพ ไม่ว่าจะต่อสู้กับมลพิษในกรุงเทพฯ หรือเพียงต้องการเพิ่มความสดชื่นให้กับบ้าน ต้นไม้เหล่านี้เป็นทางเลือกที่สวยงามและมีประโยชน์ เริ่มต้นจากต้นเล็ก ๆ วางในตำแหน่งที่เหมาะสม และเพลิดเพลินไปกับอากาศที่บริสุทธิ์และชีวิตที่สดใสในกรุงเทพฯ!