ความสงบในโลกของพุทธศาสนา ดอกไม้เปรียบเสมือนสัญลักษณ์แห่งความบริสุทธิ ความไม่เที่ยง และวงจรของชีวิตที่ตั้งอยู่และต้องดับไป การถวายดอกไม้ทุกครั้งที่เราได้ไปเยือนวัดวาอารามต่างๆ ถือว่าเป็นเรื่องปกติที่ชาวพุทธปฏิบัติกันเป็นประจำ แต่ทราบกันหรือไม่คะว่าดอกไม้ที่เราถวาย หรือใช้ในการกราบไหว้บูชานั้นมีบทบาทที่สำคัญและความหมายที่สวยงามซ่อนอยู่ วันนี้ผู้เขียนจะมาเจาะลึกถึงสัญลักษณ์และความหมายทางด้านจิตวิญญาณที่อยู่เบื้องหลังดอกไม้เหล่านี้กันค่ะ
ดอกบัว : สัญลักษณ์แห่งการตรัสรู้
ดอกบัวที่มีรากหยั่งและเติบโตในโคลน แต่ดอกจะผลิบานอยู่เหนือผิวน้ำ ถือว่าเป็นดอกไม้แห่งพระพุทธศาสนาเลยก็ว่าได้ ความหมายของดอกบัวสามารถหมายถึงการเอาชนะอุปสรรคทั้งหลายและความสงบที่เกิดจากภายในตัวเรา ดอกบัวในทางพุทธศาสนามีความลึกซึ้ง อุปมาเปรียบบุคคลเหมือนดอกบัว 4 จำพวก ได้แก่ บัวพ้นน้ำ ผู้ที่มีความพร้อมมีปัญญาสามารถมองเห็นเชื่อมโยงสิ่งต่าง ๆ อย่างมีเหตุผลได้ บัวปริ่มน้ำ จำต้องพัฒนาซึ่งเมื่อขยายความเล็กน้อยก็จะมีความเข้าใจ บัวที่อยู่ใต้น้ำ ต้องอาศัยการเพาะบ่ม อบรมฝึกฝนอยู่เสมอ และบัวที่จม อยู่กับโคลนตมเป็นเหยื่อของสัตว์น้ำ แม้จะได้ฟังธรรมก็ไม่อาจเข้าใจหรือรึความหมายตามได้ แต่อย่างไรก็ตามมนุษย์ทุกคนสามารถเรียนรู้และพัฒนาตนเองให้กลายมาเป็นบัวที่พ้นน้ำได้ค่ะ
ดอกเบญจมาศ : สัญลักษณ์แห่งความไม่เที่ยง
จากแนวคิดพื้นฐานในทางปรัชญาพุทธศาสนา ดอกเบญจมาศเป็นสัญลักษณ์แห่งวัฎจักรของชีวิต การเกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นหลักคำสอนให้กับชาวพุทธในการยอมรับกับความไม่เที่ยง ความไม่แน่นอน การใช้ชีวิตอย่างมีสติ และการเจริญปัญญา ตามความเชื่อของชาวญี่ปุ่นและชาวจีน ดอกเบญจมาศสีขาวเปรียบเสมือนการตั้งสัจจะและความซื่อสัตย์ จึงเป็นดอกไม้ที่ชาวญี่ปุ่นและจีนนำมาไหว้และสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์กันค่ะ
ดอกมะลิ: สัญลักษณ์แห่งความเมตตาและความบริสุทธิ์
ดอกมะลิเป็นดอกไม้ที่มีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ และเป็นดอกไม้ที่มีความสำคัญอย่างมากในทางพุทธศาสนา ดอกมะลิเป็นสัญลักษณ์และความบริสุทธิ์ ความเห็นอกเห็นใจและการแสดงความเมตตาต่อสรรพสิ่งบนโลกใบนี้ บทบาทของดอกมะลิในทางพุทธศาสนาคือการฝึกสมาธิและแสดงความบริสุทธิ์จากใจทุกคำพูดและการกระทำ ในความเชื่อทางพุทธศาสนา กลิ่นที่หอมของดอกมะลิสามารถยกระดับจิตใจ จิตวิญญาณ และกลิ่นหอมที่เหมือนกับเครื่องเตือนให้ใจมนุษย์เราคิดดีและกระทำความดีอยู่เสมอ
ดอกดาวเรือง: สัญลักษณ์แห่งแสงสว่าง
ในพิธีกรรมต่างๆทางพุธศาสนา ดอกดาวเรื่องมักนำมาใช้เพื่อตกแต่งแท่นบูชาและบริเวณโดยรอบวัดวาอารมหรือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ด้วยความที่ดอกดาวเรืองเป็นดอกไม้ที่มีสีสันสดใส จึงเปรียบเสมือนแสงสว่างของชีวิต ปัญญา และเส้นทางสู่การตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า ความหมายและความเชื่อมโยงทางสัญลักษณ์ระหว่างดอกดาวเรืองและแนวคิดทางพุทธศาสนา คือ ปัญญา ความเห็นอกเห็นใจ แต่การเรียนรู้ที่ไม่มีวันสิ้นสุด
กล้วยไม้: สัญลักษณ์แห่งความงามแหละความเงียบสงบ
กล้วยไม้เป็นดอกไม้ที่ลักษณะภายนอกมีความละเอียดอ่อนและซับซ้อน เปรียบเสมือนความสง่างามและความสงบในทางพุทธศาสนา ความสำคัญของกล้วยไม้นั้นเชื่อมโยงกับการเปลี่ยนแปลงทางด้านจิตวิญญาณ ความสงบจากภายในและงานพุทธศิลป์ ความหมายเชิงเปรียบเทียบของกล้วยไม้เปรียบเสมือนคำสอนของพระพุทธเจ้าและการแสวงหาของมนุษย์เพื่อยกระดับจิตวิญญาณและความรู้ของตนเอง
ดอกไม้มีบทบาทที่สำคัญในเรื่องราวทางพระพุทธศาสนาและถือมีความหมายทางจิตวิญญาณที่ลึกซึ้ง ดอกไม้แต่ละดอกในทางพุทธศาสนาสะท้อนถึงมุมมองและคุณค่าของความเป็นมนุษย์ได้อย่างมีเหตุผล ตั้งแต่การเติบโตในโคลนใต้ผิวน้ำดั่งดอกบัวไปจนถึงความงดงามประดุจดอกเบญจมาศ แต่ทั้งนี้ทุกอย่างเมื่อเกิดขึ้นมา ถึงเวลาเราก็ต้องดับไป เป็นวงจรของชีวิตที่เราไม่อาจเลี่ยงได้ ธรรมชาติถือว่าเป็นสิ่งหนึ่งที่สอนให้เราซาบซึ้งกับและขอบคุณชีวิตที่เรามี อีกทั้งเป็นแรงบันดาลใจให้กับการเติบโตในทุกจิตวิญญาณของเราค่ะ การถวายดอกไม้อาจจะไม่จำเป็นที่ต้องใช้ดอกไม้ตามที่ผู้เขียนเล่ามา ไม่ว่าจะเป็นดอกไม้อะไร แต่หากให้ด้วยใจที่บริสุทธิ์ ทั้งสิ้งมีคุณค่าเหมือนกันค่ะ 🙂