ทุกครั้งที่หันไปเจอดอกไม้แห้งจะทำให้นึกถึงช่วงเวลาฤดูใบไม้ผลิ และให้ความรู้สึกอบอุ่นใจในทุกๆครั้ง หลายคนเวลาที่ได้รับช่อดอกไม้เป็นของขวัญ นอกจากนำมาใส่แจกันเพื่อความสวยงามแล้ว เราสามารถนำช่อดอกไม้มาทำดอกไม้แห้งได้ ซึ่งนั่นหมายความว่าคุณสามารถยืดอายุการใช้งานและนำดอกไม้แห้งกลับมาใช้ประโยชน์ต่อ หรือเก็บไว้เพื่อเป็นความทรงจำดีๆก็ได้ 🙂
ความเป็นมาของดอกไม้แห้ง
การนำดอกไม้มาตากแห้งในสมัยก่อนจะมีเพื่อวัตถุประสงค์ที่หลากหลาย ตั้งแต่การทำยารักษาไปจนถึงงานศิลปะ ยกตัวอย่างเช่นในประเทศญี่ปุ่น (ช่วงประมาณศตวรรษที่ 16) Oshibana งานศิลปะการทับดอกไม้แห้งลงบนกระดาษวาชิอย่างประณีต โดยผลงานที่ออกมาเกิดจากแรงบันดาลใจที่ได้รับจากธรรมชาติและสะท้อนให้เห็นถึงความเคารพในวัฒนธรรมของชาวญี่ปุ่นที่มีต่อดอกไม้และธรรมชาติและเป็นงานศิลปะที่ทั่วโลกยังทำต่อมาจนถึงปัจจุบัน นอกจากเรื่องของศิลปะแล้ว ดอกไม้แห้งยังถูกนำมาใช้ประโยชน์ทางด้านการแพทย์ โดยในช่วงยุโรปยุคกลางสมุนไพรและดอกไม้บางชนิดมีอิทธิพลต่อการแพทย์เป็นอย่างมาก ผู้คนมักออกไปเก็บเกี่ยวดอกไม้และสมุนไพร โดยนำกลับมาอบแห้งเพื่อทำชา ขี้ผึ้ง หรือการใช้งานอื่นๆ เช่น ดอกคาโมมาย์หรือดอกลาเวนเดอร์ ที่เมื่อนำไปตากให้แห้งแล้ว สามารถนำมาใช้ดื่มเป็นชาเพื่อให้ร่างกายผ่อนคลาย นอนหลับได้ดีขึ้น หรือช่วยปรับสมดุลระบบขับถ่าย
ภาพจาก http://www.artfloreo.com/
ประโยชน์ของดอกไม้แห้ง
- ตกแต่งบ้าน
ดอกไม้แห้งเป็นทางเลือกสำหรับใครก็ตามที่อยากให้บ้านมีความรู้สึกเป็นเป็นธรรมชาติมากขึ้น หรือการเพิ่มความพิเศษให้กับห้องแต่ละห้องด้วยการเลือกดอกไม้แห้งที่แตกต่างกันวางไว้ตามมุมห้อง หรือจัดเป็นช่อใหญ่ๆแล้ววางไว้ตรงกลางของโต๊ะกินข้าว หรือแม้แต่การนำดอกไม้แห้งที่เราชอบมาใส่กรอบทำเป็นของตกแต่งผนัง เพียงแค่ดอกไม้แห้งไม่กี่ดอกก็สามารถทำให้บ้านของเราสดชื่นและมีสไตล์มากขึ้นด้วย
- ประดับงานแต่งงาน
ดอกไม้แห้งเป็นที่นิยมมากขึ้นสำหรับการใช้เป็นองค์ประกอบของการประดับงานแต่งงาน มีเจ้าสาวหลายคนที่เลือกถือช่อดอกไม้แห้งแทนดอกไม้สด การใช้ดอกไม้แห้งวางเป็น centerpieces บนโต๊ะของแขก หรือธีมงานแต่งสุดฮิตอย่าธีมโบฮีเมียนที่ใช้ดอกไม้แห้งเป็นส่วนประกอบหลักของการจัดงาน เพราะความที่ดอกไม้แห้งสามารถอยู่ได้นาน คู่แต่งงานจึงสามารถเก็บช่อดอกไม้จากงานแต่งไว้เป็นของที่ระลึกเพื่อเป็นความทรงอันล้ำค่าสำหรับและแสดงถึงวันพิเศษของทั้งคู่
- ศิลปะการทับดอกไม้
ดอกไม้แห้งสามารถนำมาทับแล้วใส่กรอบเป็นงานศิลปะก็ได้ โดยสามารถนำดอกไม้แห้งมาวางไว้ระหว่างกระดาษสองแผ่นแล้วหาอะไรก็ได้มาวางทับ โดยทิ้งไว้ซัก 1-2 วัน หลังจากนั้นคุณก็สามารถนำดอกไม้ไปใส่กรอบตามที่ชอบแล้วนำไปตกแต่งบ้านได้เลย
- เครื่องหอม
ดอกไม้แห้งสามารถนำมาใช้เป็นเครื่องหอมแทนน้ำหอมปรับอากาศได้ โดยนำดอกไม้แห้งมาผสมกับน้ำมันหอมระเหยที่เราชอบ เช่นซินนามอนหรือโรสแมรรี่ โดยผสมให้เข้ากันแล้วนำมาใส่ด้วยหรือภาชนะที่เราชอบ คุณสามารถวางไว้ตามมุมห้องต่างๆในบ้าน แค่นี้ก็ทำให้บ้านของคุณมีกลิ่นหอมสดชื่นแล้ว
- ผลิตภัณฑ์อาบน้ำ
หลังจากที่เราทำงานอย่างเหฯดเหนื่อยมาทั้งวัน การได้กลับบ้านมาแช่น้ำถือว่าเป็นกิจกรรมที่สร้างความผ่อนคลายได้อย่างดี แต่ถ้าแช่น้ำอย่างเดียวก็คงน่าเบื่อไป ลองหาดอกไม้แห้งอย่างกลีบดอกกุหลาบหรือลาเวนเดอร์มาโปรยลงในอ่างอาบน้ำควบคู่กับ bath bombs ที่คุณชอบ จะทำให้การแช่น้ำของคุณผ่อนคลายและสบายมากขึ้น สำหรับใครที่ไม่มีอ่างอาบน้ำที่บ้าน ลองหาช่อยูคาลิปตัสมาแขวนไว้บนฝักบัว เพราะเวลาที่ยูคาลิตัสโดนน้ำอุ่น จะทำให้น้ำมันในใบระเหยออกมา ทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลายได้ดีพอๆกับการแช่น้ำในอ่างอาบน้ำเลย
- กระดาษสีรุ้ง หรือ Confetti
สำหรับงานเฉลิมฉลองหรือปาร์ตี้ต่างๆ ส่วนใหญ่จะมีการใช้กระดาษสีรุ้งมาปากันเพื่อความสนุกสนานแล้วสวยงาม แต่เราสามารถเปลี่ยนจากการใช้กระดาษมาใช้ดอกไม้แห้งได้ อย่างเช่นดอกลาเวนเดอร์,ดอกเดลฟิลเนียม เพราะนอกจากจะช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมแล้ว ยังทำให้งานมีกลิ่นหอมอีกด้วย
วิธีการใช้งานและประโยชน์จากดอกไม้แห้งนั้นมีหลายอย่างค่ะ ไม่ว่าจะสร้างความสวยงามให้กับบ้าน หรืองานสำคัญต่างๆ และที่สำคัญที่สุดคือดอกไม้แห้งสามารถอยู่กับเราได้นาน พิชาได้มีโอกาสไปร้านหนังสือมือสองเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ไปหยิบเจอหนังสือเล่มหนึ่งที่สอนเกี่ยวกับทำดอกไม้แห้ง ว่าต้องทำอย่างไร หรือมีอุปกรณ์อะไรบ้าง ซึ่งจะสอนตั้งแต่เริ่มปลูก เก็บเกี่ยว และขั้นตอนการทำดอกไม้แห้ง เนื้อหาค่อนข้างน่าสนใจเลยทีเดียว สำหรับใครที่อยากลองหาอ่านดู หนังสือชื่อ Everlasting : How to grow, Harvest, and create with dried flowers โดย Bex Partidge เผื่อได้ไอเดียและแรงบันดาลใจใหม่ๆจากดอกไม้แห้งค่ะ